RAVENS CHALLENGE® 2020

Ravens Challenge 2020 was conducted as a Commander’s Week from 9 to 13 November.  Hosted by the Mass Rapid Transit Authority at their Purple Line Training Centre in Bangkok, the session was requested by Thai national stakeholders and facilitated by Raven Group International.

The focus was on a Commander-level review of the National Incident Management System as part of a full-spectrum, EOD-Plus approach to emergency response.  Over 150 Commanders took part in the daily training sessions, which included briefings, seminar discussions, practical training, and walk-through scenarios.

Participants included:

  • Royal Thai Police: Unit 191, EOD, K9, Forensics, Cyber, Medical, Border Patrol and Special Forces
  • Royal Thai Armed Forces: EOD, Special Forces, and Operational Headquarters personnel
  • Mass Rapid Transit Authority
  • Ports of Thailand
  • Electricity Generating Authority of Thailand
  • Airports of Thailand
  • Bangkok Metropolitan Authority
  • PTT (Petroleum Authority of Thailand)
  • Embassy staff from the United States, Canada, New Zealand, and the United Kingdom

Key training events included:

The Prime Minister’s Office and National Security Council reviewed National Response Strategy for terrorist attacks, active shooter incidents, hostage scenarios, chemical threats, and Infrastructure Protection.

The Deputy Secretary-General of the National Security Council briefed on national threats, roles and responsibilities, and with the UK Defence Attaché co-chaired a panel review of current global threats.

The Deputy Commander of the Royal Thai Police Patrol and Special Operations Division briefed the current main threats in Thailand, emphasizing southern Thailand.

Royal Thai Police EOD showcased various incident scenarios and led a seminar discussion on incident reactions.

Royal Thai Police Forensic teams demonstrated equipment and led discussions on forensic capture and the judiciary elements of post-incident site management.

Royal Thai Police Special Forces led briefings and discussions on engagement with Special Forces units during national incidents.

Police and Military Special Forces teams discussed dealing with different scales of hostage situations.

Royal Thai Army and MRTA demonstrated chemical and hazardous material protective equipment.

The New Zealand Police Liaison Officer briefed on the 2019 Active Shooter incident in Christchurch, New Zealand, and lessons learned.

The US FBI LEGAD discussed national infrastructure cyber protection and conducted cyber seminars with agency representatives.

A senior Australian Police Hostage Negotiator briefed on hostage scenarios.

The Royal Thai Police Mental Health Team briefed on PTSD.

First Aid and CPR training was conducted by a Thai local company, First Aid Training Bangkok.

Several Thai universities briefed on new technology developments, media response, and engaging with the public before and during an incident.

Exhibitions included:

The Defence Technology Institute demonstrated their latest EOD robot technology.

Royal Thai Police EOD displayed their newly acquired EOD vehicles and equipment.

Several locally-based companies demonstrated new technology and equipment.

*Training was conducted following Thai government COVID guidelines, which limited attendance to Thailand-based personnel.


RAVENS CHALLENGE® 2020

โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ Ravens Challenge (RC20) เมื่อปี 2563 จัดขึ้นโดย รฟม. ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการโครงการฯ กิจกรรมต่างๆ ระหว่างวันที่ 9 – 13 พฤศจิกายน ณ ห้องออดิทอเรียม ศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่ (สายสีม่วง) กรุงเทพฯ โครงการฯนี้ได้ถูกจัดขึ้นตามคำร้องขอจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในประเทศไทย โดยมี Raven Group International เป็นผู้ประสานงานโครงการฯ

 

โครงการ RC20 กำหนดจัดกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมระดับผู้บังคับบัญชาจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ทบทวนแผนและมาตรการเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุภัยคุกคามระดับชาติเพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้และบูรณาการร่วมกัน หรือเรียกแผนโดยรวมว่า แนวทาง EOD-Plus สำหรับการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน อันจะทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อสถานการณ์ โดยกำหนดให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่พัฒนาผู้อยู่ใต้ บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น จำนวน 150  คน เข้าร่วมการบรรยายสรุป การสัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการ การฝึกปฏิบัติตามแผนการ และการสังเกตการณ์การปฏิบัติงานตั้งแต่เริ่มต้นไปทีละขั้นๆจนจบขั้นตอนตามที่กำหนดไว้ตามแผนงานพร้อมกันทุกวัน

 

ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ มีดังนี้:

  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ: หน่วย 191, หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (EOD), กองกำกับการสุนัขตำรวจ (K9), นิติเวช, ไซเบอร์, การแพทย์ และหน่วยรบพิเศษ
  • กองบัญชาการกองทัพไทย: EOD, หน่วยรบพิเศษ, และบุคคลากรสำนักงานปฏิบัติการ
  • การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ รฟม.
  • การท่าเรือแห่งประเทศไทย
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  • ท่าอากาศยานไทย
  • องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกทม.
  • บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน)
  • เจ้าหน้าที่สถานทูตประจำประเทศไทย จากประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศนิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร

ประเด็นหัวข้อการอบรมสำคัญ มีดังนี้:

เจ้าหน้าที่จากสำนักนายกรัฐมนตรีและสภาความมั่นคงแห่งชาติทบทวนปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์สำหรับรับมือต่อเหตุการณ์ระดับชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อาทิเช่น การก่อการร้าย เหตุกราดยิง การจับกุมตัวประกัน และการรับมือภัยจากสารเคมี เป็นต้น

รองเลขาธิการสมช.รองผู้บังคับการเสวนาถึงบทบาทและความรับผิดชอบของสมช. และมีการเสวนาร่วมกับผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารจากประเทศอังกฤษสรุปประเด็นด้านภัยคุกคามโลก

กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (สนง.ตำรวจแห่งชาติ) เสวนาสรุปเกี่ยวกับภัยคุกคามหลักของประเทศไทยในปัจจุบัน โดยเน้นสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้

หน่วย EOD สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดแสดงสถานการณ์จำลองต่างๆ และนำการบรรยายวิธีการเผชิญเหตุในแต่ละเหตุการณ์

สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธิตการใช้อุปกรณ์ทางนิติวิทยาสตร์ และนำการบรรยายวิธีการจับกุมทางนิติเวช รวมถึงหลักกระบวนการยุติธรรมในการบริหารจัดการสถานที่หลังเกิดเหตุ

หน่วยรบพิเศษ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาตินำการเสวนาสรุปและหารือเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมกับหน่วยรบพิเศษในระหว่างเหตุการณ์ระดับชาติต่างๆ

ทีมตำรวจและทหารหน่วยรบพิเศษช่วยบรรยายสรุปเกี่ยวกับการจัดการกับสถานการณ์ตัวประกันที่แตกต่างกัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรฟม.แนะนำและสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ป้องกันสำหรับจัดการวัตถุเคมีและวัตถุอันตรายอื่นๆ

เจ้าหน้าที่ประสานงานของตำรวจนิวซีแลนด์บรรยายสรุปและบทเรียนจากเหตุการณ์ Active Shooter ปี 2019 ในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์

เจ้าหน้าที่ FBI LEGAD ของสหรัฐอเมริกาได้บรรยายเกี่ยวกับระบบป้องกันไซเบอร์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ และจัดสัมมนาด้านไซเบอร์ให้แก่ตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ

ตำรวจอาวุโสของออสเตรเลียด้านเจรจาต่อรองตัวประกันบรรยายสรุปเกี่ยวกับการจัดการกับสถานการณ์ตัวประกัน

วิทยากรจากวิทยาลัยตำรวจบรรยายสรุปในเรื่อง โรคความผิดปกติทางจิตใจภายหลังภยันตราย หรือ PTSD

ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท First Aid Training Bangkok ฝึกอบรมด้านกาปฐมพยาบาลและการกู้ชีพ (CPR training)

อาจารย์จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยหลายแห่งมาบรรยายสรุปด้านการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ การตอบสนองต่อสื่อ และการจัดการกับสาธารณชนทั้งก่อนและระหว่างเกิดเหตุการณ์

 

การจัดนิทรรศการ มีดังนี้:

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศเข้าร่วมสาธิตเทคโนโลยีหุ่นยนต์กู้ระเบิดรุ่นล่าสุด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และยานพาหนะ เช่น รถยนต์ตู้ปฏิบัติการเก็บกู้วัตถุระเบิดพร้อมชั้นวางอุปกรณ์เก็บกู้วัตถุระเบิด เครื่องขยายเสียงไซเรนและวิทยุรับส่ง บก.สปพ. ที่เพิ่งจัดซื้อจากต่างประเทศ

บริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายที่มีสาขาในประเทศไทยจำนวนมากเข้าร่วมแสดงสินค้า พื่อให้ผู้เขาร่วมโครงการฯสามารถดูเทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่ๆ

* โครงการการฝึกอบรมฯในครั้งนี้ได้วางแผนและดำเนินงานสอดคล้องกับนโยบายและมาตรการการป้องกันโรคติดต่อโควิด 19 อย่างใกล้ชิด และเข้มงวดที่สุด